DiseqC มันสะกดแปลกๆนะครับ ท่านทราบไหม ว่าย่อมาจากอะไร
Di = Digital แปลเป็นไทยว่า "ข้อมูล"
S = Satellite แปลเป็นไทยว่า "ดาวเทียม"
eq = Equipment แปลเป็นไทยว่า "อุปกรณ์"
C = Control แปลเป็นไทยว่า "ควบคุม"
รวมแล้ว มันแปลว่า ตลับรวมดาวเทียมครับ การใช้งานก็ไม่ยากครับ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นตลับรวมดาวเทียม หน้าที่ของมันก็คือการรวมสัญญาณดาวเทียม 4 ดวงเข้าด้วยกัน แล้วส่งสัญญาณไปยัง รีซีฟเวอร์ เหมาะสำหรับ การรับชมเพียงเครื่องเดียว เท่านั้น ส่วนการต่อใช้งาน ที่ตัว DiseqC มีช่องต่อดาวเทียม 4 ช่อง LNB 1 ส่วนมากแล้วจะต่อเข้ากับดาวเทียม Thaicom C ส่วน LNB 2 จะต่อเข้ากับดาวเทียม NSS6 และ LNB 3 จะต่อเข้ารับดาว เทียม Thaicom ku และสุดท้าย LNB 4 จะต่อเข้ารับดาวเทียมระบบ C Band
การใช้งาน Multiswitch
ทางเลือกใหม่ เพื่อความสะดวกสบาย ในการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ติดตั้งแสนง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะมากสำหรับบ้านขนาดใหญ่ รีสอร์ท และอาคาร ที่ต้องการเน้นคุณภาพการรับชมแบบอิสระทุกจุด ไม่ต้องดูช่องตามกันเหมือนในอดีต มัลติสวิทซ์ ใช้ตัดต่อแรงดันไฟจากเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมไปยัง LNB เพื่อเลือกรับชมรายการจากดาวเทียมทั้งแนว V/H ได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับบ้าน โรงแรม คอนโด รีสอร์ท ที่ต้องการเน้นคุณภาพของภาพและเสียงในการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม มีอัตราการสูญเสียสัญญาณต่ำ
Multiswitch เป็นอุปกรณ์ที่รวมเอาคุณสมบัติ ของ Power Pass เข้ากับ DiseqC Switch และ Switch 0/22k มาไว้ในตัวเดียวกัน
Multiswitch กับ DiseqC แตกต่างกันอย่างไร แบบให้เข้าใจง่ายๆ นะครับ ก็คือ “Multiswitch” กับ “DiseqC Switch” มีข้อแตกต่างกัน ในแง่ประโยชน์การใช้งาน และการทำงานของตัวมันเองเปรียบเหมือนข้อแตกต่างในการเลือกใช้งาน ”ตะเกียบ” กับ ”ช้อน” ในการนำอาหาร (ก๋วยเตี๋ยว) เข้าปากเรานั่นเอง การใช้งานแบบปกติของ DiseqC Switch จะเหมาะกับการต่อกับ 2 ถึง 4 LNB ทั้ง C-Ku Band เพื่อต่อใช้งานเข้ากับ Receiver เพียง 1 เครื่อง ซึ่งท่านใช้อยู่ขณะนี้
ส่วน Multi Switch เหมาะกับการต่อกับหลายๆ LNB ทั้ง C-Ku Band (ในบางรุ่น) เพื่อต่อเข้ากับ Receiver มากกว่า 1 เครื่อง และทุกๆ Receiver สามารถรับสัญญาณทั้งแนว V/H ได้อิสระ เสมือนว่า Receiver เครื่องนั้นต่อโดยตรงอยู่กับ LNB นั้นๆ
ปัจจุบัน Multi Switch ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถชมรายการทีวีที่ต่อ Receiver ไว้ทุกจุดได้แบบอิสระ ไม่ต้องดูช่องตามกันหรือช่องสัญญาณที่อยู่แนว V/H เดียวกันเหมือนในอดีต อีกต่อไป
ความเหมือนกันระหว่าง Multiswitch กับ (DiseqC) Switch คือ เป็นอุปกรณ์ช่วยให้เราสามารถเลือกชมรายการทีวีผ่านดาวเทียมได้มากช่องขึ้น จากหลายๆ ดาวเทียมนั่นเองอีกอย่างหนึ่งคือ ทั้ง Multiswitch กับ (DiseqC) Switch ต่างก็มีข้อจำกัดของตัวมันเองเหมือน ”ตะเกียบ”กับ”ช้อน” แหละครับ
Multiswitch มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ทั้งแบบที่ต้องใช้ไฟเลี้ยง และไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยง ที่ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงอย่างเช่น D2R4S จากค่าย PSI และ
2x6 จากค่าย IDEA CHAN ส่วนการใช้งานนั้น Multiswitch จะมีการตัดต่อ และส่งกระแสไฟ ส่งไปเลี้ยง LNB ที่ ความถี่ 950-2150 MHz การจ่ายกระแสไฟตัดต่อ V/H ที่ 13 V / 0 Hz, 18 V / 0Hz, 13 V / 22 KHz และ 18 V / 22 KHz
การต่อใช้งาน ต้องใช้แบบ 2 หัว ถ้าเป็น C Band ต้องใช้หัวแบบ C2 V/H มาเข้าช่อง 22k จะเข้าช่องที่ 1 หรือ 2 ก็ได้ ถ้าเป็น ku ก็ต้องใช้แบบ K2 มาเข้าช่อง 0k
เราต้องรู้แนวคลื่นส่งก่อน ว่าหัวไหนเราจะเอามันมาแนวไหน ทั้งแนว H (Horizontal) หรือแนว V (Vertical) ต้องเสียบให้ถูก วิธีสังเกต ถ้าเป็นแนว H เช่น NSS6, ASTV, NATION, D STATION, THAICOM KU, DTV ที่แนว H ให้เข้าทาง 18 V 0 K ถ้าเป็นแนว V เช่น IPM, THAICOM KU MVTV หรือช่องพม่า ที่แนว V ให้เข้าช่อง 13 V 0 K เพราะไฟแนวนี้อ่อน
ถ้าใช้เป็นหัว Universal และจำเป็นต้องแยกแนว H/V ต้องใส่ตัว 22K Gen และกลับหัว LNB 90 องศา (คือการหันหัว F-type หมุนตามเข็มนาฬิกา มาตั้งฉากกับแนว LNB เดิม 90 องศา) และ Ad TP ใหม่ เปลี่ยนจากแนว H เป็น V
ที่มา http://www.pome-sat.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น